วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

Perfume

ศิลปินน้ำหอม







เป็นที่รู้กันว่า โรงงานผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชื่อดังทุกแห่ง จะต้องมีนักชิมเหล้าหรือนักชิมไวน์ เป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมรสชาติให้ได้คุณภาพสม่ำเสมอ
คนเหล่านี้ยังทำหน้าที่คิดค้นเครื่องดื่มรสชาติใหม่ ๆ ด้วย
อาชีพนี้ใช้ลิ้นชิมรส ใช้จมูกดมกลิ่น
ในวงการน้ำหอมก็มีคนทำหน้าที่ดังว่าเช่นกัน เรียกว่า นักปรุงน้ำหอม
ฌอง คลาวด์ เอลลีนา นักปรุงน้ำหอมชื่อดังแห่งปารีส กล่าวว่า อาชีพสร้างกลิ่นต้องใช้สมาธิสูงมาก ถึงขนาดเวลานอนยังฝันถึงกลิ่นหอม
“บางคืนผมต้องลุกขึ้นมาเดินรอบ ๆ สวนหน้าบ้าน เพื่อให้เลิกฟุ้งซ่านเรื่องกลิ่นต่าง ๆ”
เอลลีนาเป็น ๑ ใน ๕๐ นักปรุงน้ำหอมของฝรั่งเศส คนเหล่านี้มีจมูกเป็นเลิศในการแยกแยะกลิ่นหอมต่าง ๆ ได้หลายพันกลิ่น
เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาให้สัมภาษณ์ว่า การทำน้ำหอมระดับโลกในปัจจุบันกำลังเดินทางผิด เพราะเชื่อนักการตลาดมากเกินไป
“บริษัทผู้ผลิตน้ำหอมมักจะออกแบบสอบถามไปยังผู้บริโภค ว่าต้องการกลิ่นแบบใด ให้ความสำคัญกับออกแบบขวดน้ำหอมและทำแผนการตลาดมากกว่าตัวน้ำหอม จนลืมไปแล้วว่า การปรุงน้ำหอมเป็นงานศิลปะ” เอลลีนากล่าว
“การปรุงน้ำหอมไม่ใช่การตอบโจทย์ทางการตลาด แต่เป็นเรื่องของการสร้างความพอใจ และความปรารถนาดีต่อมนุษย์” เขาพูดให้คิด
“หน้าที่ของคนปรุงน้ำหอมคือการสร้างความพึงพอใจที่ดี แต่ไม่ใช่การเอาใจลูกค้า” เอลลีนาย้ำ
เวรอนิก กอลิเตร์ หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์น้ำหอมของแอร์เมส กล่าวยอมรับว่า บริษัทน้ำหอมเริ่มหันมาทบทวนวิธีการทำตลาด ให้ความสนใจกับกระบวนการผลิตน้ำหอม มากกว่าความต้องการของลูกค้า
“หากคุณต้องการเอาใจตลาดโดยผลิตน้ำหอมกลิ่นที่ลูกค้าต้องการ แน่นอนว่าในระยะแรกคุณจะขายได้ดีมาก แต่สุดท้ายคุณจะขายไม่ได้ เพราะคนที่ใช้น้ำหอมเป็น คงไม่ต้องการใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกับที่คนอื่นนิยมใช้กันเกลื่อนถนน”
น้ำหอมคุณภาพดีแต่ละชนิดจึงไม่สามารถเพิ่มยอดขายได้ในท้องตลาด เพราะหากขายมากเกินไป น้ำหอมชนิดนั้นก็จะกลายเป็นน้ำหอมโหล ๆ
คนที่ใช้น้ำหอมเป็น จึงมักเลือกน้ำหอมที่เหมาะกับบุคลิกของตัวเอง หรือใช้น้ำหอมกลิ่นดี ด้วยความอยากรู้ว่า คนปรุงน้ำหอมคิดอะไรจึงสามารถปรุงน้ำหอมชนิดนั้นออกมาได้อย่างดีเลิศ
แอร์เมสจ้างเอลลีนาในวัย ๕๗ มาปรุงน้ำหอมให้บริษัท โดยสร้างห้องปรุงน้ำหอมอยู่กลางสวนแบบเมดิเตอร์เรเนียน เต็มไปด้วยดอกไม้สีน้ำเงินและสีฟ้า ห้องปรุงน้ำหอมที่ว่านี้อยู่ที่แกรส--เมืองหลวงของการทำน้ำหอมในฝรั่งเศส
เอลลีนาเริ่มเป็นนักปรุงกลิ่นหอมมาตั้งแต่อายุ ๑๗ ปี แต่ละครั้งเขาจะดมกลิ่นชนิดต่าง ๆ ราวสี่ห้าชนิด เพื่อคิดปรุงแต่งน้ำหอมกลิ่นใหม่ ๆ และใช้เวลาตั้งแต่ ๑ เดือนถึง ๔ ปี กว่าจะผลิตน้ำหอมแต่ละกลิ่นได้เสร็จสมบูรณ์
“น้ำหอมแต่ละชนิดมีที่มาต่างกัน ชนิดหนึ่งได้อิทธิพลจากกลิ่นขนมทาร์ตไส้สับปะรดและไส้ขิง น้ำหอมอีกชนิดได้อิทธิพลจากต้นโอ๊กที่ถูกโค่นลงมา และอีกชนิดได้อิทธิพลจากพริกไทย
“หลายครั้งที่ผมคิดถึงกลิ่นน้ำหอมที่ต้องการได้ตอนถูกน้ำราดหัว”
เอลลีนาเป็นนักปรุงกลิ่นหอมชื่อดังคนหนึ่งของโลก น้ำหอมที่สร้างชื่อให้เขามากที่สุดคือ “First” น้ำหอมคลาสสิกของโลก ออกสู่ท้องตลาดในปี ๒๕๑๙
น้ำหอมชั้นดีแต่ละขวดจึงเหมือนงานศิลปะของศิลปินน้ำหอม กว่าจะปรุงกลิ่นออกมาได้ ต้องผ่านการบ่มกลั่นทางความคิดอันยาวนาน
ถึงตรงนี้คงได้คำตอบว่า ทำไมน้ำหอมชั้นดีจึงราคาแพง

Perfume



Brit : เป็นน้ำหอมที่สามารถดึงเอาเสน่ห์ของหญิงสาวออกมาให้สัมผัสได้ถึงความน่ารัก อ่อนหวาน สดใส ร่าเริง ได้ทันที ด้วยกลิ่นหอมหวาน มีเสน่ห์ที่ติดตราตรึงใจ (น้ำหอมผู้หญิง)


Curious : เป็นน้ำหอมที่สื่อถึงความสดชื่น มีชีวิตชีวา ด้วยกลิ่นของดอกหลุยส์เซียน่า แม็กโนเลีย จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ดีทีเดียว


Coco Mademoiselle : เป็นน้ำหอมที่แสดงออกถึงความเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ สวยงาม ได้อย่างเด่นชัด โดยกลิ่นหอมของน้ำหอมนี้จะมาจากการผสมผสานของดอกมะลิ อย่างลงตัวและเป็นที่สนใจ จนยากที่ใครๆ จะไม่เหลียวมอง... (น้ำหอมผู้หญิง)

Chance Chanel : เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมหวานจากมวลดอกไม้นานาชนิด ให้ความ รู้สึกที่เป็นอิสระในสไตล์ที่เป็นตัวคุณ

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551

Chocolate

ประวัติ Chocolate
เค้าว่ากันว่า เจ้าช็อกโกแลตเนี่ย มันมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศแม็กซิโก
แต่เดิมเค้าเรียกมันว่า "คาคาฮอดทัล" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ผลิตจากเมล็ด
โกโก้มีรสชาดที่สุดแสนจะขม แต่จะขมยังไงก็ยังมีคนนำมาประยุกต์ใช้
โดยการเติมน้ำตาลลงไปทำให้รสชาดดีขึ้น และได้มีการเรียกชื่อใหม่ว่า
"ช็อกโกลาตส์" (เปลี่ยนชื่อกันซะง่ายๆเนอะ) ไม่นานนัก
นายเฮอร์นันโด คอร์เทส ก็ได้ทดลองนำช็อกโกลาตส์
ไปแพร่หลายที่อื่นดูบ้าง โดยเค้าเลือกที่จะไปเผยแพร่ที่ประเทศสเปน
โดยนายคอร์เทสได้เล่าให้ฟังว่า เค้าได้เดินทางสำรวจเข้าไปถึงกลางใจ
เมืองแม็กซิโกเพื่อล่าอาณานิคมและได้พบกับจักรพรรดิ
มอนแตสซูม่านอกจากนี้ชาวแอสแท็คคิดว่า คอร์เทสเป็นพระเจ้าจาก
ทะเลจึงต้อนรับโดยการเลี้ยงเครื่องดื่มคาคาฮอดทัลหรือเจ้าช็อโกลาตส์
นั่นเอง จากนั้น เครื่องดื่มรสประหลาดนี้ก็ได้แพร่หลายเข้าไปในหลายๆ
ประเทศในยุโรป และเมื่อไปถึงประเทศอังกฤษ ช็อกโกลาตส์ได้ถูกเรียก
เพี๊ยนไปเป็น "ช็อกโกแลต"และในปี 1765 เป็นต้นมา ก็ได้มีการตั้งโรง
งานผลิตช็อกโกแลตจากเมล็ดโกโก้ขึ้นหลายแห่ง ทั้งในยุโรปและ
อเมริกา โดยมีการผลิต นมช็อกโกแลต ช็อกโกแลตแท่ง ช็อกโกแลต
เคลือบ ตลอดจนการทำช็อกโกแลตในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ ใน
ประเทศเดนมาร์กยังถือว่าแซนด์วิชช็อกโกแลตมาทำเป็นอาหารว่างอีกด้วย






Chocolate Cupcakes สูตร Cake Mix
เมื่อวานอยากกินเค้กช็อกโกแล็ตมาก เลยไปหาสูตรทำchocolate จาก
อินเตอร์เนตหลายๆเว็บ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เจอสูตรช๊อคโกแล็ตที่ถูกใจ ในที่สุดก็
เจอสูตรข้างล่างนี้เป็นสูตรการทำChocolate Cupcakes ที่มีลักษณะ
คล้ายกับมัฟฟินช็อคโกแล็ต เค้าบอกว่าจะนุ่มๆ ไม่หวานจัดและค่อนข้างอุดมด้วย
ช็อคโกแล็ตมาก ใครชอบช็อคโกแล็ตน่าจะถูกใจ

ส่วนผสม

Davil’s Food Cake Mix ยี่ห้อ Duncan Hines รุ่น Moist Deluxe 1 กล่อง


ผงInstant Pudding &Pie Filling รสช็อกโกแล็ต ขนาด 3.9 ออนซ์ 1 กล่อง

ไข่ไก่ 4 ฟอง

น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง

น้ำเปล่า 1 1/4 ถ้วยตวง

ช็อกโกแล็ต ขนาดประมาณพอคำราวๆ 2.5x2.5x0.5 ซม.

จริงๆเค้าบอกว่า ใช้ยี่ห้ออื่นก็ได้ พุดดิ้งสำเร็จ จะมาเป็นผง เราจะต้องผสมนม หรือไงนี่แหละ

(ถ้าจะทำพุดดิ้งหรือไส้พาย แต่ในสูตรนี้ ใช้แบบผงแห้งๆ)

หน้าตาจะประมาณนี้สำหรับช็อคโกแล็ต วันนี้ใช้ Cacao Reserve ของเฮอร์

ชี่ มันจะมีสามรสในหนึ่งห่อใหญ่ คือช็อคโกแล็ตนม ช็อคโกแล็ตขม และช็อคโก

แล็ตขมผสมเม็ดโกโก้ห่อแยกเป็นชิ้นๆ ไว้ ก็ควานๆ หยิบๆ มาใช้ แล้วแต่ดวงค่ะ

งานนี้ว่าใครจะกัดเจอรสไหน

วิธีทำ
ผสมผงพุดดิ้งสำเร็จเข้ากับเค้กมิกซ์ ใส่ไข่ น้ำมัน และน้ำ ตีให้เข้ากัน ตักส่วนผสม
ใส่ถาดมัฟฟินที่มีถ้วยกระดาษรองไว้ ให้ได้ประมาณครึ่งถ้วย หักๆ บิๆ ช็อคโกแล็ต
ใส่ลงไปตรงกลาง (คือถ้าไม่บิ พอใส่ไปแล้วมันจะเป็นแบๆ ไม่เป็นลาวาช็อคโก
แล็ต เลยต้องบินิดนึง จัดให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนหน่อย ไม่ใช่กระจายๆ นะ แล้วค่อย
วางลงไปตรงกลาง) แล้วตักส่วนผสมโปะๆ ทับๆ เข้าไปอีกจนเกือบเต็มถ้วยอบ
ด้วยไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 25 นาที สูตรนี้จะได้คัพเค้กขนาด
กลาง 12 ชิ้น และเค้กถาดขนาดเล็ก ขนาด 5 x 2.5 อีกชิ้นค่ะ ใครจะทำเป็น
คัพเค้กทั้งหมดก็ได้ แต่พอดีที่บ้านมีแต่พิมพ์ขนาดสิบสองหลุม และขี้เกียจล้าง
ถาดมาอบที่เหลือ เลยจัดการเท่าที่เครื่องใช้ในบ้านจะอำนวย แต่ตอนอบเค้กชิ้น
ต้องเพิ่มเวลานิดนึง ถ้าจะทำคัพเค้กทั้งหมด และทำแบบมีไส้ช็อคโกแล็ตทุกชิ้น ก็
ต้องเพิ่มปริมาณช็อคโกแล็ตที่จะทำเป็นไส้อีกสัก 3-4 ชิ้น แต่อันนี้ไม่จำเป็น จะ
ทำเป็นแบบไม่มีไส้ก็ได้ เพราะเค้กชิ้นที่ทำวันนี้ก็ไม่มีไส้ กะเอาไว้แต่งหน้าแล้วกิน
กับกาแฟหรือพวกเครื่องดื่มร้อน มันจะได้ไม่ฉ่ำโบ๊ะด้วยทั้งครีมและช็อคโกแล็ต

Chocolate Frosting

ส่วนผสม
น้ำตาลทรายป่น 1/2 ถ้วยตวง
ช็อคโกแล็ตชนิดกึ่งหวาน 2-3 ออนซ์
มาร์การีน(ชนิดเค็ม) 1/2 ถ้วยตวง
วานิลลา 1/2 ช้อนชา
half and half 2-3 ช้อนโต๊ะ
ผงโกโก้ชงดื่ม 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ละลายช็อคโกแล็ตก่อนค่ะ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เอาใส่ถ้วยแล้วเอาเข้าไมโครเวฟ

ประมาณ 1 นาที

2. ตีมาร์การีนให้ขึ้นเป็นครีม แบ่งน้ำตาลครึ่งหนึ่งแล้วค่อยๆ ใส่ลงไปทีละน้อย ตี

ให้เข้ากันดี

3. ใส่ช็อคโกแล็ตที่ละลายไว้ และวานิลลา เมื่อตีเข้ากันดีแล้ว ใส่น้ำตาลที่เหลือ

ทีละน้อย สลับกับ half and half ตีให้เข้ากัน แล้วใส่ผงโกโก้ ตีอีกที เป็น

อันเสร็จค่ะ แช่ให้เซ็ตตัวนิดหน่อย จะได้ปาด

ง่ายๆ แล้วเอามาแต่งหน้าเค้กได้เลย


วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

Le pain

Le pain




ขนมปังฝรั่งเศส
ส่วนผสมสปองจ์

1. แป้งสาลีทำขนมปัง 3 ถ้วยครึ่ง

2. น้ำ 1 ถ้วยตวง

3. ยีสต์ 1 ช้อนชาครึ่ง

ส่วนผสมโด

1.แป้งสำหรับทำขนมปัง 1 ถ้วยตวง

2.น้ำเย็น เศษหนึ่งส่วนสี่ ถ้วยตวง

3.เกลือ 1 ช้อนชาครึ่ง

4.เนยขาว 1 ช้อนชาครึ่ง

วิธีทำ

1. ผสมส่วนผสมของสปองจ์ ให้เข้ากันแล้วหมักไว้ 3 ชั่วโมง

2. เติมส่วนผสมของโด ยกเว้นเนยขาวลงในแป้งที่หมัก ผสมจนเข้ากันดี

3. เติมเนยขาวลงไป นวดแป้งจนเหนียวได้ที่ พักแป้งไว้ประมาณ 15 นาที

4. ตัดแบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนหนัก 270 กรัม ปั้นเป็นรูปหมอน พักแป้งไว้ประมาณ 15 นาที

5. คลึงแป้งออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หนาประมาณ 1/4 นิ้ว ม้วนแบบแยมโรลเป็นท่อนยาวประมาณ 15 นิ้ว วางบนถาดโรยแป้งไว้

6. รอให้ขนมปังขึ้นประมาณ 30 นาที หรือขึ้นประมาณ 3/4 ของแป้งที่ขึ้นได้เต็มที่

7. ย้ายแป้งออกจากถาดมาวางบนตะแกรงลวด ทาผิวขนมปังด้วยน้ำให้ทั่ว ใช้มีดบั้งเป็นเส้นทแยงมุม 4-5 บั้ง นำเข้าอบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30 นาที หรือจนกระทั่งผิวแข็งกรอบ นำออกจากเตาอบ

หมายเหตุ :

โด (Dough) หมายถึง ส่วนผสมดิบที่มีลักษณะเหนียว เกิดจากการผสมแป้งของเหลวและส่วนผสมอื่นๆ

สปองจ์ (Sponge) หมายถึง การเตรียมส่วนผสมขั้นแรกในการทำขนมปังแบบ 2 ขั้นตอน โดยส่วนผสม แป้ง น้ำ ยีสต์ แล้วหมักแป้งโฮลวีทหรือแป้งรำ คือ แป้งที่โม่จากเมล็ดข้าวสาลี ซึ่งล้างสะอาดทั้งเมล็ด และมีส่วนประกอบต่าง ๆ ของเมล็ดข้าวสาลี ในปริมาณตามธรรมชาติครบถ้วน

เอ็มเพล็กซ์ (Emplex) เป็นตัวช่วยให้ขนมปังเนื้อนุ่มละเอียด และทำให้เก็บขนมไว้ได้สดนานขึ้น

Michael Phelps



Michael Phelps
ฉลามหนุ่ม Michael Phelps ก็ทำลายทุกสถิติคว้า 8เหรียญทองจากโอ

ลิมปิคที่ปักกิ่งโดยมีคุณแม่คอยยืนเชียร์อยู่ข้างสระและทุกรายการที่แข่ง

ก็ทำลายสถิติทั้งหมดที่เคยมีมาลงแข่ง 8 รายการ ก็ได้เหรียญทองทั้ง 8

รายการเลย

ประวัติ

Full name: Michael Fred Phelps

Nickname(s): The Baltimore Bullet

Nationality: United States

Stroke(s): Butterfly, Individual Medley, Freestyle, Backstroke

Club: Club Wolverine,
University of Michigan

Date of birth: June 30, 1985 (1985-06-30) (age 23)

Place of birth: Baltimore, Maryland, United States

Height: 6 ft 4 in (1.93 m)

Weight: 200 pounds (91 kg)



















คนอะไรทั้งหล่อทั้งเก่งเค้าขยันซ้อมมากๆ ว่ายน้ำวันละ 15-16 km.
ทุกวันขนาดวันคริสต์มาสก็ยังซ้อมเลยน่าร๊ากกกกกก สุดๆ

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

เมนูอาหารฝรั่งเศส

BELLA LUNA อร่อยนุ่มในมุมสงบ
























อีกหนึ่งมื้อพิเศษที่…

Bella Luna Cafe - เบลล่า ลูน่า คาเฟ่

เชฟชาวอเมริกันเชื้อสายจีน Andrew Wong - แอนดรู วอง เจ้าของ
ร้านอาหารที่ชื่อเก๋ไก๋ว่า
“ Bella Luna Café ” ชวนมาลิ้มลองอาหารยุโรปขนานแท้หลากรส
ชาติที่ผสมผสานได้อย่างลง
ตัว รวมไปถึงอาหารพื้นเมืองเลื่องชื่อสไตล์หลุยส์เซียน่า
Bella Luna Cafe - เบลล่า ลูน่า คาเฟ่ ร้านอาหารเล็กๆ ที่ให้ความรู้สึก
และบรรยากาศของร้าน
กาแฟเก๋ๆ ริมถนนในยุโรป รื่นรมย์ไปด้วยเสียงเพลงแจ๊สใสๆ และเมนู
อาหารที่ชวนลิ้มลอง ชื่อของร้าน
เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า พระจันทร์สวย ซึ่งเชฟแอนดรู บอกว่า เป็นชื่อ
ที่เขาหยิบยืมมาจากชื่อของร้าน
อาหารในนิวออลีนส์ เพราะถูกใจในความหมายของชื่อ และยังทำให้
เขาได้หวลนึกถึงบรรยากาศของบ้าน
เมืองที่เขาเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ก่อนที่จะตัดสินใจมาอยู่เมืองไทย
เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา







อาหารของที่นี่การันตีได้ถึงรสชาติของอาหารยุโรปต้นตำรับ เริ่มที่เมนู
เรียกน้ำย่อยอย่างสลัดผัก ทั้งซีซ่าร์สลัด ทูน่าสลัด หรือสลัดผักรวม
นอกจากผักจะสดกรอบแล้ว Dressing หรือน้ำสลัด ก็เป็นสูตรไขมันต่ำ มี
ส่วนผสมหลักเป็นน้ำมันมะกอก ตามมาด้วยซุปหลากชนิด ทั้งซุปผัก
สไตล์อิตาเลี่ยน ซุปกุ้งสไตล์ฝรั่งเศส
อาหารจานหลัก ก็มีทั้งสไตล์อิตาเลี่ยน ฝรั่งเศส หรือแม้กระทั่งบางเมนูที่
ดัดแปลงมาจากอาหารรัสเซีย ซึ่งจานเด่นของอาหารอิตาเลี่ยนอย่าง
หอยลายอบชีสเสริฟกับขนมปังกระเทียม ผักโขมอบชีส หอยแมลงภู่
นิวซีแลนด์อบเนยกระเทียมหรือซอสมะเขือเทศ ลาซานญ่าเนื้อบด สปา
เก็ตตี้ขี้เมา ซอสเนื้อ ซอสไก่ พาสต้าสอดไส้ ฯลฯ ล้วนแต่ได้รสชาติ
ของอาหารอิตาเลี่ยนขนานแท้
พิซซ่าของที่นี่ ก็เป็นตำรับพิซซ่ายุโรป แป้งบางกรอบโรยหน้าด้วยเห็ด
และเบคอน (ราคา 150 บาท) หอมกรุ่นนุ่มลิ้นด้วยชีส ส่วนขนมปัง
Home made มีส่วนผสมของเครื่องเทศและสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ
อย่างเช่น โรสแมรี่
เมนูอาหารฝรั่งเศส อย่าง Pate-พาเท่ หรือตับบดเสริฟพร้อมขนมปังปิ้ง
(ราคาวึ่งเป 150 บาท) ก็เป็นอีกจานเด่นที่เข้าถึงรสชาติของตับบด รวม
ทั้งเมนูสร้างสรรค์อย่างแซลมอน พาเท่ (150 บาท) ซึงเป็นแซลมอนบด
นำมาทาบนขนมปังปิ้ง (ราคา 150 บาท) ก็น่าชิมเช่นเดียวกับสตูว์เนื้อ
และ หมู (ราคา 225 บาท) ที่เคี่ยวจนเปื่อยนุ่มถึงเนื้อถึงรส
เชฟแอนดรู บอกว่า นิวออร์ลีนส์ เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า Melting pot in
the world เพราะเต็มไปด้วยอาหารจากหลากหลายเชื้อชาติ ทำให้เขา
นำอาหารพื้นเมืองของที่นั่นมาบรรจุไว้ในเมนูของร้าน อย่างเช่น Creole
Pork Chop หรือหมูย่างผสมเครื่องเทศ สไตล์หลุยส์เซียน่า ราดด้วย
ซอสที่มีส่วนผสมของพริกปาปริก้า เสริฟคู่กับมันฝรั่งทอดและข้าวโพด
หวาน (ราคา 225 บาท) หรือจะเป็นเซอลอย แบล็ค แองกัส สเต็ก
(ราคา 625 บาท) ที่เลือกสรรเนื้อเซอลอยชั้นดี นุ่มลิ้น นำเข้าจาก
ออสเตรเลีย ปรุงรสชาติที่ลงตัวกับเบียร์เย็นฉ่ำแก้วโป
ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยกาแฟหอมกรุ่น คั่วบดจากเมล็ดกาแฟชั้นดี เสริ
ฟพร้อมขนมหวานที่แสนเย้ายวน อย่างคาราเมล คัสตาร์ด ที่ไม่มีเจลาติ
นเป็นส่วนผสมแม้แต่น้อย หรือจะเลือกชิมบราวนี่อุ่นๆ ราดด้วยราสเบอรี่
กับไอศกรีมวานิลลา สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟหลังมื้ออาหาร




Bella Luna Cafe - เบลล่า ลูน่า คาเฟ่ ตั้งอยู่ด้านหลังอาคารพหลโยธิน

พาร์ค เพลส พหลโยธินซอย 47 เยื้องๆ กับมหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดให้

บริการทุกวันตั้งแต่ 11.00-23.00 น. และมีห้องจัดเลี้ยงในสไตล์

European Casual Elegant Café สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่

โทร.0-2942-7365, 0-2942-7367