วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
Songkran
วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2552
วันตรุษจีน
วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552
Teacher day
ความเป็นมา
วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู ด้วยเหตุนี้ในทุก ๆ ปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัยสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง” จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความคิดเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่น ๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกันประชาชน ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ให้วันที่ ๑๖ มกราคมของทุกปีเป็น “วันครู” โดยเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๘ เป็นวันครูและให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้
การจัดงานวันครู
การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน งานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ
มารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู
1. เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
2. ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น
3. ตั้งใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เกิดผลดีด้วยความเอาใจใส่ อุทิศเวลาของตน ให้แก่ศิษย์ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้
4. รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามประพฤติการใด ๆ อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงของครู
5. ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถานศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของสถานศึกษา
6. ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำหรือยอมให้นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติ
7. ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการ โดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของตน และไม่เบียดบังใช้แรงงานหรือนำผลงานของผู้อื่นไป เพื่อประโยชน์ส่วนตน
8. ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความเที่ยงธรรมไม่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ
9. สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ ของผู้ร่วมงานและของสถานศึกษา
10. รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่การงาน
วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551
Noël
ประวัติวันคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาส
ซานตาครอส
เพลงคริสต์มาส เพลงวันคริสต์มาส
เพลงคริสต์มาส เริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 ซึ่งในสมัยนั้น มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสเป็นผู้แต่ง ร้องเป็นภาษาลาติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมา ของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีวิวัฒนาการใหม่ในด้านเพลงนี้ เริ่มในประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้มีส่วนในการสนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่ ซึ่งชาวบ้านชอบ คือมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดี ในโอกาสคริสต์มาสนี้ เพลงเหล่านี้เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาส ที่เรานิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวันเสีย ทำให้วงขับร้อง ไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ คุณพ่อเองตั้งใจ จะแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ หลังจากแต่งเสร็จ ก็เอาไปให้เพื่อนคนหนึ่งชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ ที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงใส่ทำนอง ในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก
วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
La fête des pères
ความเป็นมาของวันพ่อแห่งชาติ
วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริเริ่ม
หลักการและเหตุผลในการจัดตั้งวันพ่อแห่งชาติ
โดยที่พ่อเป็นผู้มีพระคุณมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและ สังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสมควรที่สังคมจะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างนานัปการ ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดาทรงรักใคร่และห่วงใยตั้งแต่พระเยาว์จนถึงปัจจุบันรวมทั้งพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ เรืออากาศเอกวีรยุทธ ดิษยศริน พระสวามีในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์วลัยลักษณ์และพระเจ้าหลาน เธอทุกพระองค์ ต่างซาบซึ้งและปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมิรู้ลืม พระองค์ทรงเป็น “พ่อ” ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรวงห่วงใยอย่างหาที่เปรียบมิได้ ดังบทร้อยกรองเทิดพระเกียรติว่า
คณะกรรมการจัดงานวันพ่อแห่งชาติได้กำหนดให้ดอกพุทธรักษาดอกไม้ที่มีนามเป็นมงคลนี้เป็นสัญลักษณ์
วัตถุประสงค์ของการจัดวันพ่อแห่งชาติ
1. เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2. เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม
3. เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูต่อพ่อ
4. เพื่อให้ผู้เป็นพ่อได้สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน
กิจกรรมที่ควรปฎิบัติในวันพ่อแห่งชาติ
1. ประดับธงชาติที่อาคารบ้านเรือน
2. จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการบำเพ็ญประโยชน์หรือทำบุญใส่บาตร เพื่ออุทิศส่วนกุศลและระลึกถึงพระคุณพ่อ
3. จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมยกย่องผู้ที่ สมควร ได้รับการยกย่องว่าเป็นพ่อ ตัวอย่าง
สำหรับคุณสมบัติของพ่อตัวอย่าง คณะกรรมการได้กำหนดไว้ดังนี้
1. มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป
2. ส่งเสริมการศึกษาแกบุตรและธิดา
3. นับถือศาสนาโดยเคร่งครัด
4. งดเว้นอบายมุขทุกชนิด
5. อุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน
6. มีภรรยาเพียงคนเดียว
หน้าที่ของบิดา มารดาพึงมีต่อบุตร
* ห้ามมิให้ทำความชั่ว - ป้องกัน, ห้ามปราม มิให้ประพฤติเสียหาย
* ให้ตั้งอยู่ในความดี - ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม วัฒนธรรมประเพณี และกฎหมายบ้านเมือง
* ให้ศึกษาศิลปวิทยา - ส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาทั้งคดีโลก และคดีธรรม
* หาคู่ครองที่สมควรให้ - เลือกคู่ครองที่คู่ควร, เหมาะสมให้ในเวลาอันเหมาะสม
* มอบทรัพย์สมบัติให้ดูแลเมื่อถึงเวลาอันสมควร - มอบภาระหน้าที่การงานให้บริหาร และมอบมรดกให้ครอบครอง
หน้าที่ของบุตรพึงมีต่อบิดามารดา
* เลี้ยงดูบิดามารดาเป็นการตอบแทน - เลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่าอย่าปล่อยให้ท่านอดรันทดใจในวัยชรา
* ช่วยทำกิจการงานของท่าน - ไม่นิ่งดูดายเป็นคนไร้น้ำใจเข้าไปช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่
* ดำรงวงศ์ตระกูล - ไม่ทำตระกูลให้เสื่อมและเสียหาย
* ประพฤติตนให้สมควรได้รับทรัพย์มรดก - ประพฤติตนให้ท่านไว้ใจและวางใจ ที่จะครอบครองสมบัติ
* ท่านเจ็บป่วยต้องรักษา ท่านมรณาต้องทำศพให้ - ทำความปรารถนาของพ่อแม่มิให้พังทลาย
วันที่ 5 ธันวาคม นอกจากจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว ยังถือว่าว่าวันนี้ เป็น “วันชาติของไทย” อีกด้วย
วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551
Perfume
ศิลปินน้ำหอม
เป็นที่รู้กันว่า โรงงานผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชื่อดังทุกแห่ง จะต้องมีนักชิมเหล้าหรือนักชิมไวน์ เป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมรสชาติให้ได้คุณภาพสม่ำเสมอ
คนเหล่านี้ยังทำหน้าที่คิดค้นเครื่องดื่มรสชาติใหม่ ๆ ด้วย
อาชีพนี้ใช้ลิ้นชิมรส ใช้จมูกดมกลิ่น
ในวงการน้ำหอมก็มีคนทำหน้าที่ดังว่าเช่นกัน เรียกว่า นักปรุงน้ำหอม
ฌอง คลาวด์ เอลลีนา นักปรุงน้ำหอมชื่อดังแห่งปารีส กล่าวว่า อาชีพสร้างกลิ่นต้องใช้สมาธิสูงมาก ถึงขนาดเวลานอนยังฝันถึงกลิ่นหอม
“บางคืนผมต้องลุกขึ้นมาเดินรอบ ๆ สวนหน้าบ้าน เพื่อให้เลิกฟุ้งซ่านเรื่องกลิ่นต่าง ๆ”
เอลลีนาเป็น ๑ ใน ๕๐ นักปรุงน้ำหอมของฝรั่งเศส คนเหล่านี้มีจมูกเป็นเลิศในการแยกแยะกลิ่นหอมต่าง ๆ ได้หลายพันกลิ่น
เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาให้สัมภาษณ์ว่า การทำน้ำหอมระดับโลกในปัจจุบันกำลังเดินทางผิด เพราะเชื่อนักการตลาดมากเกินไป
“บริษัทผู้ผลิตน้ำหอมมักจะออกแบบสอบถามไปยังผู้บริโภค ว่าต้องการกลิ่นแบบใด ให้ความสำคัญกับออกแบบขวดน้ำหอมและทำแผนการตลาดมากกว่าตัวน้ำหอม จนลืมไปแล้วว่า การปรุงน้ำหอมเป็นงานศิลปะ” เอลลีนากล่าว
“การปรุงน้ำหอมไม่ใช่การตอบโจทย์ทางการตลาด แต่เป็นเรื่องของการสร้างความพอใจ และความปรารถนาดีต่อมนุษย์” เขาพูดให้คิด
“หน้าที่ของคนปรุงน้ำหอมคือการสร้างความพึงพอใจที่ดี แต่ไม่ใช่การเอาใจลูกค้า” เอลลีนาย้ำ
เวรอนิก กอลิเตร์ หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์น้ำหอมของแอร์เมส กล่าวยอมรับว่า บริษัทน้ำหอมเริ่มหันมาทบทวนวิธีการทำตลาด ให้ความสนใจกับกระบวนการผลิตน้ำหอม มากกว่าความต้องการของลูกค้า
“หากคุณต้องการเอาใจตลาดโดยผลิตน้ำหอมกลิ่นที่ลูกค้าต้องการ แน่นอนว่าในระยะแรกคุณจะขายได้ดีมาก แต่สุดท้ายคุณจะขายไม่ได้ เพราะคนที่ใช้น้ำหอมเป็น คงไม่ต้องการใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกับที่คนอื่นนิยมใช้กันเกลื่อนถนน”
น้ำหอมคุณภาพดีแต่ละชนิดจึงไม่สามารถเพิ่มยอดขายได้ในท้องตลาด เพราะหากขายมากเกินไป น้ำหอมชนิดนั้นก็จะกลายเป็นน้ำหอมโหล ๆ
คนที่ใช้น้ำหอมเป็น จึงมักเลือกน้ำหอมที่เหมาะกับบุคลิกของตัวเอง หรือใช้น้ำหอมกลิ่นดี ด้วยความอยากรู้ว่า คนปรุงน้ำหอมคิดอะไรจึงสามารถปรุงน้ำหอมชนิดนั้นออกมาได้อย่างดีเลิศ
แอร์เมสจ้างเอลลีนาในวัย ๕๗ มาปรุงน้ำหอมให้บริษัท โดยสร้างห้องปรุงน้ำหอมอยู่กลางสวนแบบเมดิเตอร์เรเนียน เต็มไปด้วยดอกไม้สีน้ำเงินและสีฟ้า ห้องปรุงน้ำหอมที่ว่านี้อยู่ที่แกรส--เมืองหลวงของการทำน้ำหอมในฝรั่งเศส
เอลลีนาเริ่มเป็นนักปรุงกลิ่นหอมมาตั้งแต่อายุ ๑๗ ปี แต่ละครั้งเขาจะดมกลิ่นชนิดต่าง ๆ ราวสี่ห้าชนิด เพื่อคิดปรุงแต่งน้ำหอมกลิ่นใหม่ ๆ และใช้เวลาตั้งแต่ ๑ เดือนถึง ๔ ปี กว่าจะผลิตน้ำหอมแต่ละกลิ่นได้เสร็จสมบูรณ์
“น้ำหอมแต่ละชนิดมีที่มาต่างกัน ชนิดหนึ่งได้อิทธิพลจากกลิ่นขนมทาร์ตไส้สับปะรดและไส้ขิง น้ำหอมอีกชนิดได้อิทธิพลจากต้นโอ๊กที่ถูกโค่นลงมา และอีกชนิดได้อิทธิพลจากพริกไทย
“หลายครั้งที่ผมคิดถึงกลิ่นน้ำหอมที่ต้องการได้ตอนถูกน้ำราดหัว”
เอลลีนาเป็นนักปรุงกลิ่นหอมชื่อดังคนหนึ่งของโลก น้ำหอมที่สร้างชื่อให้เขามากที่สุดคือ “First” น้ำหอมคลาสสิกของโลก ออกสู่ท้องตลาดในปี ๒๕๑๙
น้ำหอมชั้นดีแต่ละขวดจึงเหมือนงานศิลปะของศิลปินน้ำหอม กว่าจะปรุงกลิ่นออกมาได้ ต้องผ่านการบ่มกลั่นทางความคิดอันยาวนาน
ถึงตรงนี้คงได้คำตอบว่า ทำไมน้ำหอมชั้นดีจึงราคาแพง
Perfume
Brit : เป็นน้ำหอมที่สามารถดึงเอาเสน่ห์ของหญิงสาวออกมาให้สัมผัสได้ถึงความน่ารัก อ่อนหวาน สดใส ร่าเริง ได้ทันที ด้วยกลิ่นหอมหวาน มีเสน่ห์ที่ติดตราตรึงใจ (น้ำหอมผู้หญิง)
Curious : เป็นน้ำหอมที่สื่อถึงความสดชื่น มีชีวิตชีวา ด้วยกลิ่นของดอกหลุยส์เซียน่า แม็กโนเลีย จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ดีทีเดียว
Coco Mademoiselle : เป็นน้ำหอมที่แสดงออกถึงความเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ สวยงาม ได้อย่างเด่นชัด โดยกลิ่นหอมของน้ำหอมนี้จะมาจากการผสมผสานของดอกมะลิ อย่างลงตัวและเป็นที่สนใจ จนยากที่ใครๆ จะไม่เหลียวมอง... (น้ำหอมผู้หญิง)
Chance Chanel : เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมหวานจากมวลดอกไม้นานาชนิด ให้ความ รู้สึกที่เป็นอิสระในสไตล์ที่เป็นตัวคุณ
วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551
Chocolate
ส่วนผสม
Davil’s Food Cake Mix ยี่ห้อ Duncan Hines รุ่น Moist Deluxe 1 กล่อง
ผงInstant Pudding &Pie Filling รสช็อกโกแล็ต ขนาด 3.9 ออนซ์ 1 กล่อง
ไข่ไก่ 4 ฟอง
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1 1/4 ถ้วยตวง
ช็อกโกแล็ต ขนาดประมาณพอคำราวๆ 2.5x2.5x0.5 ซม.
จริงๆเค้าบอกว่า ใช้ยี่ห้ออื่นก็ได้ พุดดิ้งสำเร็จ จะมาเป็นผง เราจะต้องผสมนม หรือไงนี่แหละ
(ถ้าจะทำพุดดิ้งหรือไส้พาย แต่ในสูตรนี้ ใช้แบบผงแห้งๆ)
หน้าตาจะประมาณนี้สำหรับช็อคโกแล็ต วันนี้ใช้ Cacao Reserve ของเฮอร์
ชี่ มันจะมีสามรสในหนึ่งห่อใหญ่ คือช็อคโกแล็ตนม ช็อคโกแล็ตขม และช็อคโก
แล็ตขมผสมเม็ดโกโก้ห่อแยกเป็นชิ้นๆ ไว้ ก็ควานๆ หยิบๆ มาใช้ แล้วแต่ดวงค่ะ
งานนี้ว่าใครจะกัดเจอรสไหน
Chocolate Frosting
ส่วนผสม
วิธีทำ
1. ละลายช็อคโกแล็ตก่อนค่ะ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เอาใส่ถ้วยแล้วเอาเข้าไมโครเวฟ
ประมาณ 1 นาที
2. ตีมาร์การีนให้ขึ้นเป็นครีม แบ่งน้ำตาลครึ่งหนึ่งแล้วค่อยๆ ใส่ลงไปทีละน้อย ตี
ให้เข้ากันดี
3. ใส่ช็อคโกแล็ตที่ละลายไว้ และวานิลลา เมื่อตีเข้ากันดีแล้ว ใส่น้ำตาลที่เหลือ
ทีละน้อย สลับกับ half and half ตีให้เข้ากัน แล้วใส่ผงโกโก้ ตีอีกที เป็น
อันเสร็จค่ะ แช่ให้เซ็ตตัวนิดหน่อย จะได้ปาด
ง่ายๆ แล้วเอามาแต่งหน้าเค้กได้เลย